สายพานไทมิ่ง

วันว่าง...เรียงลำดับความสำคัญ

รถก้อนคำคู่ชีพ 4 แสนโลแล้วสมควรเปลี่ยนสายพานไทมิ่งซะที

สำรวจอุปกรณ์...สายพานหน้าเครื่อง 3 เส้น  แล้วก็ สายพานไทมิ่ง+ลูกรอก

สั่งทางเว็บ น้าโจ้บางใหญ่  รวดเร็ว ขนส่งเอกชน สบาย

ศึกษาทำการบ้านมาพอสมควร   ถึงเวลารื้อแล้วสินะ  การเตรียมการที่ดีเท่ากับสำเร็จไปกว่าครึ่งครับ

1.ถอดชุดพลาสติก น๊อต 6 ตัว ก็จะเจอกับ ชุดสายพานไทมิ่ง  ด้ามบล็อคหมุนไดชาร์จตั้งสายพานตึงๆ
2.หาปากกาเมจิกสีน้ำเงินเข้มๆ หน่อย  มาเขียนตำแหน่งไว้ (ขีด)  ตรงมาร์คราวลิ้น และ มาร์คเฟืองปั้ม
3.ก้มมองข้างล่าง มาร์ค ข้อเหวี่ยง จุดที่ 2  (จุดแรกตั้งเฟืองปั้ม)  ตรงเด๊ะ
4.หาเคเบิ้ลไทร์  มาร้อย สปริงดันลูกรอกไว้ เอาไว้ดึงตอนใส่ลูกรอกตัวใหม่ ตั้งความตึง สายพาน
5.จัดการถอดสปริง  ตามด้วยลูกรอก พร้อมสายพานไทมิ่ง มันก็ใหม่ๆยุ  แต่ไม่มั่นใจข้างในครับ
6.ต้องดูทิศทางการหมุนสายพาน มีลูกศรบอกไว้  สายพานหน้าเครื่อง ตามเข็ม  สายพานไทมิ่งทวนเข็ม อย่าใส่สลับกัน
7.เอาเส้นเก่า มาเทียบ ทำสัญลักษณ์ไว้ กลัวพลาด ดูลูกศรทิศทาง
8.ร้อยอันใหม่ใส่เฟืองปั้มก่อน  แล้วก็คล้องไปที่ ราวลิ้น ใส่ลูกรอก สปริงจะเป็นตัวตั้ง ความตึง ไม่เกินครึ่งนิ้ว หมุนล็อกลูกรอก
9.ทดลองหมุนข้อเหวี่ยงสองรอบ  ราวลิ้นจะหมุน 1 รอบ ไม่มีอะไร ผิดปกติ ยกมือสาธุ  ลองสตาร์ทดู
10.อันเก่ามันยานไป สงสัยตั้งล็อกลูกรอก โดยไม่ได้ใช้แรงสปริง  ชึ่งติดแล้วครับ ผ่าน

น้ำมันเครื่องปลอม

หวัดดีครับ   น้ำมันเครื่องเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลเครื่องยนต์   เจอน้ำมันปลอมเข้าไป  งานงอกครับ

อาการสังเกตง่าย  วิ่งไม่ออก ปกติเปลียนใหม่นี่ลื่นปิ้ด  แล้วเสียงก็เงียบกว่าเดิม  นี่ตรงข้ามไปหมด
เทใส่แก้วใส  ดูความใส  ของปลอมจะใสน้อยกว่า  คล้ำกว่า  (พอดีเหลือของเก่าไว้เทียบครับ)
ร้านก็ขาประจำ  คิดว่าเจ้าของร้านคงรู้ตัว เพราะดูแปลกๆ ครับ  พอดีเจอในเว็บ ขออนุญาตนะครับแชร์

ผมเลยสรุปวิธีทดสอบน้ำมันเครื่องแบบ บ้าน ๆ ไ้ว้ พอจะเอาไปทดลองดูได้เองที่บ้านครับ สำหรับทดสอบน้ำำมันที่ไม่ใช่น้ำมันเครื่อง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นน้ำมันสูตรไหนนะครับ เช่น ถ้าเขาปลอมโดยเอาน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ ไปใส่กระป๋องสังเคราะห์ขาย แบบนี้บอกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก่อนเติมก็มั่นใจได้ว่า ไม่ทำให้เครื่องพัง

บางขั้นตอน กรุณาทำอย่างปลอดภัย ไม่ประมาทด้วยครับ

1. ทดสอบฟอง หาภาชนะ ใส เช่นขวดแก้วเล้ก ๆ ใส่น้ำมันเครื่อง ประมาณ 20cc หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วเขย่าครับ น้ำมันเครื่องปลอม ส่วนใหญ่ จะเป็นฟองแทบทันทีและหายไปเหมือนฟองสบู่ หรือ ทินเนอร์ใส แล้วแต่ว่าเขาเอาอะไรมาปลอม แต่น้ำมันเครื่องจริง มันจะเป็นฟองน้อย ๆ แล้วก็ลอยขึ้นผิวหน้า จึงหายไป

2. ทดสอบการทนความร้อน เครื่องยนต์รถนั้น ส่วนที่น้ำมันเครื่องไปสัมผัสอาจจะมีอุณหภูมิสูงถึง 300 องศาเซลเซียสครับ เอาภาชนะใสอีกนั่นแหละ จะได้มองเห็น ใส่น้ำมันซัก 20cc อีกเช่นกัน ตั้งเทียนไข ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เอาภาชนะนั้นไปวางเหนือเทียนไข ให้เปลวเทียนห่างจากภาชนะประมาณ 2 เซนติเมตร ถ้าน้ำมันเครื่องที่ทดสอบเปลี่ยนเป็นสีดำแทบทันที ปลอมแน่ ๆ ครับ น้ำมันเครื่องแท้ ๆ จะไม่เปลี่ียนสี และความหนืด ที่อุณหภูมิของปลายเปลวเทียนไขครับ เทียนไขให้ความร้อนเปลว ราว ๆ 1000องศาเซลเซียส แต่ถ้าห่างไป 2 cm จะเหลือ 300celcius แค่นั้นครับ กำลังดี เป็นการประมาณคร่าว ๆ ครับ ไม่แม่นยำ แต่ใช้ทดสอบได้

3. การทดสอบ oxidation ถ้ามันผ่านข้อสองมาได้ อย่าเพิ่งวางใจครับ เราเอาน้ำมันเดิม ในภาชนะเดิมนั่นแหละ ตั้งไฟต่ออีกนิด  เอาลมสะอาดเป่า หรือถ้าไม่รังเกียจ เอาหลอดจุ่ม เป่าลมด้วยปากลงไปทิ้งไว้ซักพักครับ โดยหาอะไรปิดแง้ม ๆ ไว้ ไม่ให้ฝุ่นตกลงไป แต่อากาศถ่ายเทได้ ถ้าหลังจาก 1 ชั่วโมง สภาพน้ำมันยังเหมือนเดิม ไม่มีกลิ่นแปลก ๆ ไม่มีสีเพี้ยน ๆ ไม่มีฟอง  ยังสามารถเทได้ไหลดี เหมือนน้ำมันใหม่ ๆ ก็สบายใจได้ว่าโอกาศที่จะำทำให้เครื่องพังมีน้อยลงไปเยอะครับ

ทำ 3 ขั้นตอนนี้แล้ว ก็พอบอกได้แล้วครับว่าน้ำมันเครื่องที่จะเอาไปใช้ ปลอมรึเปล่า  ถึงแม้จะไม่ได้สรุป 100% ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลยครับ



ทุกวันนี้คนเห็นแก่ตัวกันเยอะ  งวดนี้เลยต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 2 ครั้งครับ  เซงจุงเบย

spec 12R

TOYOTA 12R
เครื่องยนต์
ชนิด 12R 4 สูบเรียง 4 จังหวะ ความจุกระบอกสูบ 1587 ซีซี.
ระยะห่างวาล์ว ไอดี 0.008 นิ้ว(ร้อน) ไอเสีย 0.014 นิ้ว(ร้อน)
Firing Order 1-3-4-2 กระบอกสูบที่ 1 อยู่ติดกับ Timing chain
ระบบระบายความร้อน Thermostat เปิด 80.5-83.5 องศาเซลเซียส
ฝาปิดหม้อน้ำทนแรงดัน 10.7-14.9 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ระบบเชื้อเพลิง
รอบเดินเบาปกติ 700+/-50
รอบตัวเปล่าเร็ว 2800 รอบต่อนาที
CO ที่ความเร็วเดินเบาปกติ 0.5-2.5%
คาร์บิวเรเตอร์ Aisan 21100-314
นมหนู 103, 156
ค่าออกเทน RON 91
ระบบจุดระเบิด ชนิด Contact Breaker
คอยล์ Primary resistance 14.2-1.5 Ohms
Ballast resistance 1.3-1.5 Ohms
จานจ่าย Toyo Denso
ทองขาวเปิดห่าง 0.018 นิ้ว
มุม Dwell 52%
จังหวะจุดระเบิด ไม่ต่อท่อ Vacuum 8 องศา BTDC ที่รอบเดินเบา
Centrifugal Check ของจังหวะจุดระเบิด 0@800 ถึง 1200 ; 16 ถึง 20 ที่ 3000 รอบต่อนาที และ 30-34 ที่ 5200 รอบต่อนาที
หัวเทียน NGK BPR5ES เขี้ยวห่าง 0.028-0.032 นิ้ว
ระบบไฟฟ้า
แบตเตอรี่ 12 โวลต์ 60 แอมป์
แอลเทอร์เนเตอร์ เมื่อใช้กระแสเต็มที่ 13.8-14.8 โวลต์ ที่ 3000 รอบต่อนาที
ห้ามล้อ แผ่นเหลือบางไม่น้อยกว่า-หน้า 0.04 นิ้ว ; หลัง 0.04 นิ้ว
ความแน่นของสลักเกลียวยึดส่วน
ฝาสูบ 75-84 ฟุตปอนด์
ประกับแบริ่งตัวใหญ่ 23-36 ฟุตปอนด์
เมนแบริ่ง 71-81 ฟุตปอนด์
Flywheel 42-47 ฟุตปอนด์
ชุดประกบ จานคลัทช์ 11-15 ฟุตปอนด์
หัวเทียน 11-15 ฟุตปอนด์
ความจุ
น้ำมันเครื่อง + ฟิลเตอร์ 3.8 ลิตร
น้ำมันเกียร์ ธรรมดา 1.9 ลิตร
เฟืองท้าย 1.8 ลิตร
น้ำระบายความร้อน 8.0 ลิตร

โมดิฟายจุดระเบิด

จัดการช่วงล่าง

หลายวันมานี้ตามหาอะไหล่ช่วงล่าง  ที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็ กล้องยา 750.-
นิ่งมากขึ้น ตัวเก่าหลวมมาก

คิวต่อไป คันชักตัวนอก  นี่ก็หลวม  วิ่งไปดึงพวงมาลัย เวลาเจอถนนเป็นคลื่น
แต่งตัวใหม่ ถอดหม้อกรอง ไปพ่นสีกันร้อน  ถอดฝาครอบวาล์ว ด้วย  สีกันร้อน สีดำ

เป็นลูกหมากคันชักตัวนอกรอคิว  หาอะไหล่ยังไม่ได้ (ไม่มีเวลา)  ด้านบนเปลี่ยนกล้องยา ญี่ปุ่น 555
ช่วงล่างครับจากเว็บ http://auto-kat.com/index.php?route=saleepc/toyota/parts&region=EUR&modification=7134&group=4505   มีเลข part no.  ให้ดูครับ  ง่ายขึ้นเยอะ


เสาร์ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องขอนแก่น  ซอกหาคันชักนอก(คันชักยาว) ได้มา 1 คู่  650.- บาท 555 แจแปนซะด้วย จัดการเปลี่ยน  อืม...ได้ข้อคิดอีกอย่างคือ  อย่าทำตามแนวช่าง  เค้าเปลี่ยน คันชักนอก ใส่ L ทั้งสองข้าง  คงหาของไม่ได้  หรืออย่างไรไม่ทราบ  เปลี่ยนไม่ยาก  ยากตรงถอด ต้องเคาะ ให้เหล็กคลายตัว  ก่อนจึงใช้เหล็กดูดลูกหมาก  ปังเดียวครับ  ง่ายจริง  บางทีการสังเกตทำให้เกิดปัญญา  แถมได้เครื่องปั้มอัดจาระบี  ซื้อที่ ราชาพลาซ่า  ขำขำ 125 บาท  ใช้งานได้ดี  อัดลูกหมากต่างๆ ช่วงล่างหน้าทุกตัว
     เสร็จแล้วก็ลองวิ่ง  อย่าลืมเช็คน็อตต่างๆ ซัก 2 เที่ยว ล็อกลูกหมาก กิ๊บล็อก  ขันล้อ  เป๋ครับกินซ้าย  ทำไงดีตั้งศูนย์แบบลุกทุ่ง  ตั้งพวงมาลัยตรงวัด มุมโท ก่อน มองไปมาเห็น สามเหลี่ยมจับเหลี่ยมปูนอลูมิเนียม  ยาว 2 เมตรได้   วัดหน้ายาง ด้านหน้า กับ ด้านหลัง  ค่อยปรับคันชักลูกหมาก  ให้ระยะหน้า หลัง ยางล้อหน้า ใกล้เคียงกันก่อน  ออกวิ่งอีกรอบ กินขวานิด  ค่อยปรับล้อขวา อีกนิด  อิอิ ตรงใช้ได้ครับ  ปล่อยพวงมาลัยได้แล้ว  ส่วนแคมเบอร์  คาสเตอร์  มันเกินสติปัญญาครับ  อีกไม่นานเจอกัน

    งานต่อไป อยากทำท่อดักลม  เข้ากรองอากาศ  อากาศในห้องเครื่องมันร้อน  ดูดหน้าเครื่องเป็นไง ใช้ท่อน้ำทื้ง pvc น่าจะได้   แป็บนุง คริคริ

การตั้งวาล์ว OHV 12R RN20

 ลอกเค้ามา...ศึกษาก่อน

*** ศึกษาเรื่อง วาล์วไอดี  ไอเสีย  8 วาล์ว ไอดี I  ไอเสีย E
       วาล์วไอดี จะต้องใหญ่กว่าวาล์วไอเสียเสมอ
*** ระบบจุดระเบิด 1342 สูบตามลำดับ
*** ดูดอัดระเบิดคาย  2 รอบได้พลังงานมา 1 ครั้ง
*** จุดศูนย์ตาย บนล่าง
*** ระยะห่างวาล์ว ไอดี .20 mm  ไอเสีย .30 mm
*** ก่อนจะทำการตั้งวาวล์ ต้องรู้จักทฤษฎีก่อนเล็กน้อย วาวล์จะยกขึ้นลงได้ต้องใช้แคมเป็นตัวยก ถ้าเป็นเครื่อง OHV ก็มีแคมอยู่ในเสื้อเครื่องแล้วต่อก้านกระทุ้งขึ้นมากดกระเดื่องวาวล์บนฝาสูบ แต่ถ้าเป็นเครื่อง OHC DOHC จะมีแคมอยู่บนกดวาวล์บนฝาสูบเลย 
*** เอาเป็นว่า หนึ่งสูบมีแคมสองลูก สี่สูบมีแปดลูก อยู่บนราวเดียวกันเรียงเหมือนลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้ ถ้าเป็น DOHC จะมีสองแคม แคมละสี่ลูก ถ้าเป็น Vtec หรือ VVTI จะมี สองแคม แคมละแปดลูก จะวิ่งให้กดครบทั้งสองลูก ลูกสูบต้องวิ่งขึ้นลงสองครั้งคือ ดูด-อัด1รอบจุดระเบิด-คายไอเสียอีก1รอบ
***ระหว่างที่สูบแรกทำงานจังหวะต่างๆสูบอื่นจะทำงานเรียง กัน 1-3-4-2 คือวาวล์ไอดีเปิดที่สูบ1ข้อเหวี่ยงหมุนไปอีกรอบวาวล์สูบ3จะเปิด หมุนไปอีกรอบสูบ4จะเปิด และตามด้วยสูบ2 คือจะให้จุดระเบิดครบสี่สูบต้องหมุนสี่รอบ ภายในสี่รอบวาวล์ทั้งแปดตัวต้องเปิดปิดครบ เราจะฉวยโอกาสตอนนี้แหละตั้งวาวล์ตามจังหวะต่างๆของการหมุน 
*** การตั้งวาวล์มีหลายแบบ ทั้งแบบมืออาชีพหมุนเครื่องสองรอบก็ตั้งได้ครบ 8ตัว เรียกว่าแบบ Opposite cylender หรือตั้งสูบตรงกันข้าม เช่นรถ 8สูบจะเลื่อนสูบที่1 แต่จะไปตั้งสูบที่5 ด้วยทีเดียวกัน วิธีนี้ผมยังไม่พูดให้ฟังเพราะต้องอธิบายยาวพอสมควร
และวิธีการตั้งวาวล์แบบมือใหม่หัดทำ แต่ชัวร์ว่าตั้งเสร็จแล้วเครื่องไม่พังแน่ เรียกว่าแบบ ปากแคมและก้นแคม หรือ Heal and Toe ถ้าชำนาญแล้วไม่ต้องดูเอามือคลำก็ใส่ได้เลย
  ***เตรียม Feeler Gauge ประแจเบอร์12 ไขควงแบน

 ***ต่อไปคือขั้นตอนตั้งวาวล์

เอาประแจบล็อกจับเข้ากับมูเล่ข้อเหวี่ยงหมุนตามทิศทางการหมุนของเครื่อง เลื่อนสูบ1ให้ไอเสียเริ่มจะเปิดคือก้านกระเดื่องเริ่มปีนปากแคมหรือ Flank  ถ้าหันหน้าเข้าเครื่อง วาวล์ไอดีจะอยู่ที่ตำแหน่งก้นแคมพอดี หรือ Heal ให้ตั้งวาวล์ด้านขวา แล้วหมุนไปอีกสูบต่อไปที่ไอเสียจะเริ่มเปิดคือวาวล์ไอเสียสูบที่3ก็จัดการ กับไอดีสูบที่3 แล้วก็ทำเหมือนกันกับสูบที่ 4 และ 2 การตั้งวาวล์ไอดีก็จบกระบวนการ

คราวนี้วาวล์ไอเสียบ้าง ให้หมุนจนไอดีสูบที่1 เปิดสุดหรือ Toe แล้วหมุนต่อจนเกือบจะปิดสนิด คือก้านกระทุ้งกระดื่องปีนลงมาสุดปลายแคม ตำแหน่งไอเสียจะอยู่ที่ก้นแคม หรือ Heal ให้ตั้งไอเสียสูบ 1 แล้วก็หมุนแล้วตั้งสูบ 3-4-2 เหมือนไอดีทุกประการ

 

***เริ่มจากหมุนเครื่องจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 1 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 1 และตั้งไอเสียสูบ3 พร้อมกันไปเลย เพราะมุมมันเกือบตรงกัน แล้วก็หมุนเครื่องจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 3 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 3 และวาวล์ไอเสียสูบ 4 แล้วก็หมุนจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 4 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 4 และวาวล์ไอเสียสูบ 2 แล้วก็หมุนๆๆๆๆๆจนก้นแคมอยู่ที่วาวล์ไอดีสูบ 2 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 2 และวาวล์ไอเสียสูบ 1 เฮ้อ...เหนื่อย

***เทคนิคการตั้งที่ถูกต้องคือ ถอดนัตล็อกพอหลวมแล้วขันแกนด้วยไขควงจนชน Feeler เอามือดึงและดัน Feelerว่ามันฝืดมือน้อยๆก็ใช้ได้

ถ้าผืดมากหรือดึงไม่ออกแสดงว่าปรับยันเกินไป แต่ถ้าดึงแล้วลื่นไม่มีน้ำหนักก็ตั้งห่างเกินไป ถ้าพอใจกับระยะแล้วก็ขันแกนล็อกนัตพอตึงมือ อย่าเล่นจนนัตแตกหรือก้านกดปลายเกลียวรูดเป็นใช้ได้

เรื่องจะขันแกนจน Feeler ผืดแค่ไหนนี่ต้องใช้ความชำนาญของแต่ละคน ของแบบนี้สอนไม่ได้ต้องทำเองแล้วจะรู้ว่าฝืดเท่านี้แหละถูกต้องแล้ว 

อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธ นะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โสอิทา นิมะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต

อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปะทะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ


หลังจากศึกษาพอสมควร  ก็ถึงเวลาลงมือทำ  ขันน็อตยึดฝาครอบวาล์ว ออก  ตั้งสายพานให้ตึง  หมุนสายพานให้ได้จุดศูนย์ตายบนที่สูบ4  จะเห็นว่ามีกระเดื่องวาล์วที่ฟรี ระยะขยับได้ที่ สูบ 1 ตั้งค่า ไอดี ไอเสีย  แล้วก็ศูนย์ตายบน สูบ 1 ตั้งไอดี ไอเสีย สูบ 4  และ2/3 เสร็จแล้ว

Intake : 0.20mm ( 0.008 in.) Exhaust : 0.30mm ( 0.012 in.)   สำคัญตอนเครื่องร้อนนะครับ  ตั้งเสร็จรู้สึกได้เลยว่า  รอบเครื่องนิ่ง  กำลังดีขึ้น

โครงการบูรณ RN20 Retro car

ปฐมบท...

*** ทำความสะอาด  ภายนอกซะใหม่กริบ

***  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง  งบน้อย  ซื้อ 4 ลิตร แถม  1 ลิตร  เกรด  SN  ยังไงต้องดีกว่าเดิมแน่ครับ

***  ฮ่วย...กรองน้ำมันเครื่องด้วย  RN 20  เครื่อง OHV 12 R  1600 cc  8 วาล์ว  รอบแรกไปซื้อมาผิดครับ   ต้องกรองกระดาษของแท้    65  บาท  ในเว็ปแค่ 40.- บาทเองครับ

*** ได้กรองมาแล้ว ปัญหาหลังจากเปลี่ยนน้ำมัน  ซีลยางรั่ว นำ้มันไหลผุดๆ  ถอดออกใหม่  พอดีน้ำมันได้มา  5 ลิตรเกือบหมด   เสร็จไป  รอบนิ่งขึ้นเยอะครับ  อันนี้เบอร์ part อะไหล่ทีหลังซื้อง่าย

***งานชิ้นสำคัญ คือ ตั้งวาล์ว   ตามสูบ 1342  จุดระเบิด 8 วาล์ว ไอดี intake ไอเสีย E

*** กรองกระดาษตัวล่าง  ข้างบนถอดฝาครอบวาล์วแล้ว
*** เข้าคิวรอ    ปะผุใต้เบาะ  ตอนนี้ขัดสนิมออก  รองพื้นเทาไว้ก่อน
*** ตัดท่อพักไอเสีย  ผุรั่วหลายจุด  ใส่ท่อพักใหม่
*** เช็คน้ำมันเกียร์  เฟืองท้าย   น้ำมันเบรค  ครัชต์
*** อัดจาระบี ช่วงล่าง มีหัวอัด แต่ยังไม่มีปืนอัด
*** ออกตัวเกียร์ 1 มีกระตุก สงสัยกากะบาท เพลากลาง
*** ตั้งวาล์ว  ความรู้ใหม่ของแท้ต้อง ตั้งตอนเครื่องร้อน
*** ทำฐานขารองแบตใหม่ลูกใหญ่กว่าเดิม (เสร็จแล้ว)
*** ทำสี หม้อกรอง และฝาครอบ วาล์ว  สีทนร้อน สีดำ (ซื้อร้านไหนหว่า)
*** ล้อ ยาง กะทะ  เก่ามาก  ดอกยางไม่เหลือแล้ว  เปลี่ยนแม็กดีมั้ยเนี่ย
*** สีแก้มซ้าย สงสัยมีชน  ว่าจะทำเอง  ต้องสั่งผสมสี  2K  งานช้าง
*** สายคันเร่ง ถึงเวลาต้องออกใหม่ล่ะมั้ง  และหล่อลื่นสายโช้คด้วย
*** ช่วงล่าง  โช้คหน้าหลัง  อยากได้น้ำมัน  ลูกหมากมีดึงพวงมาลัยด้วย ถ้าถนนเป็นคลื่น
*** อิอิ ลองกราวด์วายดูหน่อยมั้ย สายไฟเก่าๆ หางปลา
*** สายพานหน้าเครื่อง อีกอัน ต้องถอดไปวัดดู
*** จำพวกลูกปืนล้อ ผ้าเบรค เซอร์วิสอีก วิ่งได้เบรคไม่ได้ 555