วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

จัดการช่วงล่าง

หลายวันมานี้ตามหาอะไหล่ช่วงล่าง  ที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็ กล้องยา 750.-
นิ่งมากขึ้น ตัวเก่าหลวมมาก

คิวต่อไป คันชักตัวนอก  นี่ก็หลวม  วิ่งไปดึงพวงมาลัย เวลาเจอถนนเป็นคลื่น
แต่งตัวใหม่ ถอดหม้อกรอง ไปพ่นสีกันร้อน  ถอดฝาครอบวาล์ว ด้วย  สีกันร้อน สีดำ

เป็นลูกหมากคันชักตัวนอกรอคิว  หาอะไหล่ยังไม่ได้ (ไม่มีเวลา)  ด้านบนเปลี่ยนกล้องยา ญี่ปุ่น 555
ช่วงล่างครับจากเว็บ http://auto-kat.com/index.php?route=saleepc/toyota/parts&region=EUR&modification=7134&group=4505   มีเลข part no.  ให้ดูครับ  ง่ายขึ้นเยอะ


เสาร์ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องขอนแก่น  ซอกหาคันชักนอก(คันชักยาว) ได้มา 1 คู่  650.- บาท 555 แจแปนซะด้วย จัดการเปลี่ยน  อืม...ได้ข้อคิดอีกอย่างคือ  อย่าทำตามแนวช่าง  เค้าเปลี่ยน คันชักนอก ใส่ L ทั้งสองข้าง  คงหาของไม่ได้  หรืออย่างไรไม่ทราบ  เปลี่ยนไม่ยาก  ยากตรงถอด ต้องเคาะ ให้เหล็กคลายตัว  ก่อนจึงใช้เหล็กดูดลูกหมาก  ปังเดียวครับ  ง่ายจริง  บางทีการสังเกตทำให้เกิดปัญญา  แถมได้เครื่องปั้มอัดจาระบี  ซื้อที่ ราชาพลาซ่า  ขำขำ 125 บาท  ใช้งานได้ดี  อัดลูกหมากต่างๆ ช่วงล่างหน้าทุกตัว
     เสร็จแล้วก็ลองวิ่ง  อย่าลืมเช็คน็อตต่างๆ ซัก 2 เที่ยว ล็อกลูกหมาก กิ๊บล็อก  ขันล้อ  เป๋ครับกินซ้าย  ทำไงดีตั้งศูนย์แบบลุกทุ่ง  ตั้งพวงมาลัยตรงวัด มุมโท ก่อน มองไปมาเห็น สามเหลี่ยมจับเหลี่ยมปูนอลูมิเนียม  ยาว 2 เมตรได้   วัดหน้ายาง ด้านหน้า กับ ด้านหลัง  ค่อยปรับคันชักลูกหมาก  ให้ระยะหน้า หลัง ยางล้อหน้า ใกล้เคียงกันก่อน  ออกวิ่งอีกรอบ กินขวานิด  ค่อยปรับล้อขวา อีกนิด  อิอิ ตรงใช้ได้ครับ  ปล่อยพวงมาลัยได้แล้ว  ส่วนแคมเบอร์  คาสเตอร์  มันเกินสติปัญญาครับ  อีกไม่นานเจอกัน

    งานต่อไป อยากทำท่อดักลม  เข้ากรองอากาศ  อากาศในห้องเครื่องมันร้อน  ดูดหน้าเครื่องเป็นไง ใช้ท่อน้ำทื้ง pvc น่าจะได้   แป็บนุง คริคริ

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การตั้งวาล์ว OHV 12R RN20

 ลอกเค้ามา...ศึกษาก่อน

*** ศึกษาเรื่อง วาล์วไอดี  ไอเสีย  8 วาล์ว ไอดี I  ไอเสีย E
       วาล์วไอดี จะต้องใหญ่กว่าวาล์วไอเสียเสมอ
*** ระบบจุดระเบิด 1342 สูบตามลำดับ
*** ดูดอัดระเบิดคาย  2 รอบได้พลังงานมา 1 ครั้ง
*** จุดศูนย์ตาย บนล่าง
*** ระยะห่างวาล์ว ไอดี .20 mm  ไอเสีย .30 mm
*** ก่อนจะทำการตั้งวาวล์ ต้องรู้จักทฤษฎีก่อนเล็กน้อย วาวล์จะยกขึ้นลงได้ต้องใช้แคมเป็นตัวยก ถ้าเป็นเครื่อง OHV ก็มีแคมอยู่ในเสื้อเครื่องแล้วต่อก้านกระทุ้งขึ้นมากดกระเดื่องวาวล์บนฝาสูบ แต่ถ้าเป็นเครื่อง OHC DOHC จะมีแคมอยู่บนกดวาวล์บนฝาสูบเลย 
*** เอาเป็นว่า หนึ่งสูบมีแคมสองลูก สี่สูบมีแปดลูก อยู่บนราวเดียวกันเรียงเหมือนลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้ ถ้าเป็น DOHC จะมีสองแคม แคมละสี่ลูก ถ้าเป็น Vtec หรือ VVTI จะมี สองแคม แคมละแปดลูก จะวิ่งให้กดครบทั้งสองลูก ลูกสูบต้องวิ่งขึ้นลงสองครั้งคือ ดูด-อัด1รอบจุดระเบิด-คายไอเสียอีก1รอบ
***
ระหว่างที่สูบแรกทำงานจังหวะต่างๆสูบอื่นจะทำงานเรียง กัน 1-3-4-2 คือวาวล์ไอดีเปิดที่สูบ1ข้อเหวี่ยงหมุนไปอีกรอบวาวล์สูบ3จะเปิด หมุนไปอีกรอบสูบ4จะเปิด และตามด้วยสูบ2 คือจะให้จุดระเบิดครบสี่สูบต้องหมุนสี่รอบ ภายในสี่รอบวาวล์ทั้งแปดตัวต้องเปิดปิดครบ เราจะฉวยโอกาสตอนนี้แหละตั้งวาวล์ตามจังหวะต่างๆของการหมุน 
*** การตั้งวาวล์มีหลายแบบ ทั้งแบบมืออาชีพหมุนเครื่องสองรอบก็ตั้งได้ครบ 8ตัว เรียกว่าแบบ Opposite cylender หรือตั้งสูบตรงกันข้าม เช่นรถ 8สูบจะเลื่อนสูบที่1 แต่จะไปตั้งสูบที่5 ด้วยทีเดียวกัน วิธีนี้ผมยังไม่พูดให้ฟังเพราะต้องอธิบายยาวพอสมควร
และวิธีการตั้งวาวล์แบบมือใหม่หัดทำ แต่ชัวร์ว่าตั้งเสร็จแล้วเครื่องไม่พังแน่ เรียกว่าแบบ ปากแคมและก้นแคม หรือ Heal and Toe ถ้าชำนาญแล้วไม่ต้องดูเอามือคลำก็ใส่ได้เลย
 
***
เตรียม Feeler Gauge ประแจเบอร์12 ไขควงแบน





 ***ต่อไปคือขั้นตอนตั้งวาวล์

เอาประแจบล็อกจับเข้ากับมูเล่ข้อเหวี่ยงหมุนตามทิศทางการหมุนของเครื่อง เลื่อนสูบ1ให้ไอเสียเริ่มจะเปิดคือก้านกระเดื่องเริ่มปีนปากแคมหรือ Flank  ถ้าหันหน้าเข้าเครื่อง วาวล์ไอดีจะอยู่ที่ตำแหน่งก้นแคมพอดี หรือ Heal ให้ตั้งวาวล์ด้านขวา แล้วหมุนไปอีกสูบต่อไปที่ไอเสียจะเริ่มเปิดคือวาวล์ไอเสียสูบที่3ก็จัดการ กับไอดีสูบที่3 แล้วก็ทำเหมือนกันกับสูบที่ 4 และ 2 การตั้งวาวล์ไอดีก็จบกระบวนการ

คราวนี้วาวล์ไอเสียบ้าง ให้หมุนจนไอดีสูบที่1 เปิดสุดหรือ Toe แล้วหมุนต่อจนเกือบจะปิดสนิด คือก้านกระทุ้งกระดื่องปีนลงมาสุดปลายแคม ตำแหน่งไอเสียจะอยู่ที่ก้นแคม หรือ Heal ให้ตั้งไอเสียสูบ 1 แล้วก็หมุนแล้วตั้งสูบ 3-4-2 เหมือนไอดีทุกประการ


***เริ่มจากหมุนเครื่องจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 1 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 1 และตั้งไอเสียสูบ3 พร้อมกันไปเลย เพราะมุมมันเกือบตรงกัน แล้วก็หมุนเครื่องจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 3 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 3 และวาวล์ไอเสียสูบ 4 แล้วก็หมุนจนก้นแคมอยู่ที่ไอดีสูบ 4 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 4 และวาวล์ไอเสียสูบ 2 แล้วก็หมุนๆๆๆๆๆจนก้นแคมอยู่ที่วาวล์ไอดีสูบ 2 ตั้งวาวล์ไอดีสูบ 2 และวาวล์ไอเสียสูบ 1 เฮ้อ...เหนื่อย

***เทคนิคการตั้งที่ถูกต้องคือ ถอดนัตล็อกพอหลวมแล้วขันแกนด้วยไขควงจนชน Feeler เอามือดึงและดัน Feelerว่ามันฝืดมือน้อยๆก็ใช้ได้

ถ้าผืดมากหรือดึงไม่ออกแสดงว่าปรับยันเกินไป แต่ถ้าดึงแล้วลื่นไม่มีน้ำหนักก็ตั้งห่างเกินไป ถ้าพอใจกับระยะแล้วก็ขันแกนล็อกนัตพอตึงมือ อย่าเล่นจนนัตแตกหรือก้านกดปลายเกลียวรูดเป็นใช้ได้

เรื่องจะขันแกนจน Feeler ผืดแค่ไหนนี่ต้องใช้ความชำนาญของแต่ละคน ของแบบนี้สอนไม่ได้ต้องทำเองแล้วจะรู้ว่าฝืดเท่านี้แหละถูกต้องแล้ว 


อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธ นะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โสอิทา นิมะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต

อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปะทะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ


หลังจากศึกษาพอสมควร  ก็ถึงเวลาลงมือทำ  ขันน็อตยึดฝาครอบวาล์ว ออก  ตั้งสายพานให้ตึง  หมุนสายพานให้ได้จุดศูนย์ตายบนที่สูบ4  จะเห็นว่ามีกระเดื่องวาล์วที่ฟรี ระยะขยับได้ที่ สูบ 1 ตั้งค่า ไอดี ไอเสีย  แล้วก็ศูนย์ตายบน สูบ 1 ตั้งไอดี ไอเสีย สูบ 4  และ2/3 เสร็จแล้ว

Intake : 0.20mm ( 0.008 in.) Exhaust : 0.30mm ( 0.012 in.)   สำคัญตอนเครื่องร้อนนะครับ  ตั้งเสร็จรู้สึกได้เลยว่า  รอบเครื่องนิ่ง  กำลังดีขึ้น